ถ้าไม่ออกกำลังกายเลย จะส่งผลให้กล้ามเนื้อขาเสื่อมประสิทธิภาพ หลอดเลือดดำที่ขาก็จะอ่อนแอ ไม่มีกล้ามเนื้อขาคอยพยุง นอกจากนี้การไหลเวียนเลือดของขาก็จะไม่ค่อยดีเท่าที่ควร เสี่ยงเป็นเส้นเลือดขอดที่ขาได้ง่าย
ปัจจัยอะไรบ้างที่ทำให้เกิดเส้นเลือดขอด
ในรายที่ปฏิบัติตามคำแนะนำดังกล่าวแล้วยังไม่ได้ผล ผู้ป่วยควรพบแพทย์ที่โรงพยาบาล ซึ่งแพทย์อาจต้องตรวจโดยการฉีดสีเข้าเส้นเลือดที่ขอดแล้วเอกซเรย์ดูลักษณะของเส้นเลือดหรือตรวจพิเศษอื่น ๆ และอาจต้องรักษาโดยการฉีดยาเข้าไปในเส้นเลือดดำที่ขอดทำให้เกิดการแข็งตัวและตีบตันเพื่อตัดการไหลเวียนของเลือด หรือถ้าพบว่าเป็นมากอาจต้องรักษาโดยการผ่าตัดดึงเส้นเลือดดำที่ขอดออกไป
- ยกขาสูง เพื่อเพิ่มการไหลเวียนเลือดที่ขา โดยหมั่นนั่งหรือนอนพัก และยกเท้าให้สูงกว่าระดับหัวใจ วันละหลาย ๆ ครั้ง
ถ้าเป็นเส้นเลือดขอดในระยะแรกจะเห็นหลอดเลือดโป่งพองสีคล้ำ ๆ ที่ขาเวลายืน โดยไม่มีอาการเจ็บปวด เมื่อเป็นมากขึ้นอาจมีอาการปวดหน่วงหรือปวดเมื่อย เป็นตะคริว หรือเท้าบวมหลังจากยืนได้สักพัก และหากเป็นรุนแรงอาจมีผื่น, คัน, ผิวหนังอักเสบเกิดขึ้นในบริเวณที่เป็นเส้นเลือดขอด หรือขาทั่วไปได้, เกิดอักเสบมีลิ่มเลือดอุดตัน, เป็นแผลเรื้อรัง หรือมีเลือดออก
การตรวจวินิจฉัยโรคเส้นเลือดขอดโดยทั่วไป ได้แก่
หากปล่อยไว้ไม่รักษาอาจเกิดการแตกของเส้นเลือดขอดที่อยู่ชิดผิวหนัง ทำให้มีแผลโดยตรงบนผนังหลอดเลือด ส่งผลให้เลือดออกเป็นจำนวนมากจากหลอดเลือดโดยตรง
รักษาเส้นเลือดขอด ด้วยคลื่นความถี่วิทยุ/ เลเซอร์
ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นหลังการฉีดสลายเส้นเลือดฝอยที่ขา
อาจทำให้เกิดแผลบริเวณขาและเท้าได้ง่าย ซึ่งแผลที่เกิดจะหายได้ช้า เนื่องจากการไหลเวียนของเลือดไม่ดี และถ้าแผลมีเลือดออก เลือดก็มักจะออกมากและหยุดไหลช้าเนื่องจากการมีความดันในเส้นเลือดดำที่สูงกว่าปกติ
ถ้ามีเลือดไหลจากเส้นเลือดขอด ให้นั่งหรือนอนยกเท้าให้สูงกว่าระดับหน้าอก check here และใช้ผ้าสะอาดกดแรง ๆ ตรงรอยแผลที่มีเลือดออก เมื่อเลือดหยุดไหลแล้วให้ทำความสะอาดแผลแบบบาดแผลสดทั่ว ๆ ไป
การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน เช่น ในวัยรุ่น หญิงตั้งครรภ์ หญิงวัยทอง หรือแม้กระทั่งการรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิดก็อาจส่งผลทำให้เกิดเส้นเลือดขอดมากขึ้นได้
สำหรับในรายที่มีภาวะแทรกซ้อนร่วมด้วยดังกล่าว การส่งตรวจพิเศษจะเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อช่วยในการวางการรักษาได้อย่างถูกต้อง (การส่งตรวจพิเศษโดยทั่วไปสามารถตรวจได้ในโรงพยาบาลขนาดใหญ่ เช่น โรงพยาบาลประจำจังหวัด โรงพยาบาลที่เป็นสังกัดของโรงเรียนแพทย์ เป็นต้น) ซึ่งการตรวจพิเศษเพิ่มเติมนั้นมีดังนี้